EP2

อาการปวดไมเกรน มักเกิดขึ้นกับทุกเพศทุกวัยและไม่เลือกเวลา บางคนก็มี sign ล่วงหน้าก่อนที่อาการปวดจะกำเริบ แต่ในหลายๆคนมักเจอปัญหาที่จู่ๆอาการปวดก็กำเริบขึ้นมาสะดื้อๆ อย่างเช่นในกรณีคนไข้รายนี้

 

หญิงสาว วัย 24 ปี มีอาการปวดไมเกรนติดตัวมาตั้งแต่สมัยอายุ 12-13 ปี โดยไม่ทราบถึงสาเหตุแน่ชัด มักกำเริบช่วงก่อนมีประจำเดือนบ้าง หรือมีความเครียดบ้าง ปัจจุบันด้วยงานที่เครียด ต้องนั่งหน้าจอคอมเป็นเวลานาน จึงทำให้อาการไมเกรนกำเริบอยู่บ่อยครั้ง ทั้งแบบมี sign เตือนและไม่มี sign เตือนล่วงหน้า เคยต้อง Admit เข้ารพ เพราะอาการปวดไมเกรน ราวๆ 2-3 ครั้ง

 

จากการตรวจร่างกายพบว่า

- ปวดศีรษะไมเกรน บริเวณหัวคิ้วและกระบอกตาทั้ง 2 ข้าง ปวดเรื้อรังเป็นๆหายๆ

- สัมพันธ์กับความเครียดและประจำเดือน ช่วงก่อนมีประจำเดือน 1สัปดาห์ อาการปวดจะอยู่ใน Level 9 และมีอาเจียนร่วมด้วย

- หากไม่ได้อยู่ช่วงก่อนมีประจำเดือน อาการปวดจะอยู่ใน Level 7

- กล้ามเนื้อต้นคอและบ่า ค่อนข้างแข็งและตึง เนื่องจากนั่งทำงานหน้าคอมนานๆ

- นอนหลับไม่สนิท ตื่นกลางดึก 1-2 ครั้ง/คืน อ่อนเพลีย ท้องผูก ถ่าย 3 วัน/ครั้ง

- ประจำเดือนมาปกติ แต่มีลิ่มเลือดออกมาใน 3 วันแรก

- ชีพจรเล็กและตึง ลิ้นมีสีแดงอมม่วง ปลายลิ้นแดง ฝ้าลิ้นสีขาวบาง

- ไม่มีโรคโรคประจำตัวอื่นๆ

 

วินิจฉัยสาเหตุของอาการ

คนไข้ มีภาวะเลือดและลมปราณภายในร่างกายไหลเวียนไม่สะดวก ร่วมกับมีภาวะเครียดจากการทำงานเป็นประจำ ทำให้ลมปราณตับติดขัด สะสมจนเกิดเป็นไฟ ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะไมเกรน

 

การรักษา

ฝังเข็ม : กระตุ้นการไหลเวียนเลือด ระบายความร้อนที่ตับ คลายกล้ามเนื้อบริเวณรอบดวงตาต้นคอ และบ่า เพื่อลดอาการปวด

ยาจีน : ตำรับเพื่อลดความร้อนตับ และกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือด ขจัดเลือดคั่ง

(โดยฝังเข็มต่อเนื่อง 1 ครั้ง/สัปดาห์ ร่วมกับทานยาสมุนไพรจีนทุกวัน)

- หลังการรักษาครั้งที่ 1 อาการปวดลดลงทันที 25%

- หลังการรักษาครั้งที่ 6 อาการปวดลดลงถึง 75% ความถี่ที่อาการปวดกำเริบลดลงมาก ไม่มีความรู้สึกพะอืดพะอม และอาเจียนร่วมด้วย

 

คำแนะนำ

ไม่ควรนั่งท่าเดิมหน้าคอมเป็นเวลานานๆ ควรลุกขยับตัวทุกๆ 30-60 นาที พยายามไม่เครียด นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และหลีกเลี่ยงน้ำเย็น น้ำแข็ง