EP14

โรคกรดไหลย้อน (GERD) คือ ภาวะที่น้ำย่อยจากกระเพาะอาหารไหลย้อนกลับขึ้นไปในหลอดอาหาร ทำให้มีอาการปวดและแสบร้อนบริเวณลิ้นปี่ ทรวงอก ลำคอ จุกคล้ายมีอะไรขวางอยู่ ร่วมกับมีอาการ ท้องอืด แน่นท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ไอเรื้อรัง เสียงแหบ เป็นต้น ซึ่งแพทย์แผนจีนมองว่า "กรดไหลย้อน" มีสาเหตุมาจาก ไฟจากตับไปกระทบกระเพาะอาหาร หรือ ม้ามและกระเพาะอาหารพร่อง ดังเช่นในกรณีคนไข้รายนี้

​

หญิง วัย 37 ปี มีอาการปวดและแสบร้อนทรวงอก รวมถึงจุกแน่นท้องและลิ้นปี่ เรื้อรังมามากกว่า 1 ปี

​

จากการตรวจร่างกายพบว่า

- คนไข้มีอาการปวดและแสบร้อนทรวงอก รวมถึงจุกแน่นท้องและลิ้นปี่ ระดับความเจ็บปวดอยู่ในระดับ 8/10 มักมีอาการหลังรับประทานอาหารเย็น    หรือ หลังรับประทานอาหารมากจนเกินไป

- เป็นๆหายๆ เรื้อรังมามากกว่า 1 ปี

- ปากแห้ง คอแห้ง กระหายน้ำ ปากขม

- ทำงานที่มีความเครียดสูง

- นอนหลับไม่สนิท มักตื่นกลางดึก ตื่นแล้วหลับต่อยาก

- ท้องผูก ถ่ายยาก 2-3 วัน/ครั้ง

- ชีพจรเล็กและเร็ว ลิ้นมีสีแดง ปลายลิ้นสีแดงเข็ม ฝ้าลิ้นมีเหลืองบาง

​

วินิจฉัยสาเหตุของอาการ

คนไข้มีภาวะเครียดเป็นประจำ ส่งผลให้ไฟจากตับลุกโชนไปกระทบกับกระเพาะอาหาร และลมปราณไหลย้อนกลับขึ้นไป จนทำให้มีอาการปวดและแสบร้อนทรวงอก จุกแน่นลิ้นปี่ ปากแห้ง คอแห้ง ปากขม และมีอาการนอนหลับไม่สนิทร่วมด้วย

​

การรักษา

ฝังเข็ม + ยาสมุนไพรจีน : เพื่อขจัดไฟตับ และดึงลมปราณที่ย้อนขึ้นไปให้กลับลงมา รวมถึงปรับสมดุลการทำงานของม้ามและกระเพาะอาหาร�

โดยฝังเข็มร่วมกับทานยาสมุนไพรจีน อย่างต่อเนื่อง 1 ครั้ง/สัปดาห์

หลังการรักษาครั้งที่ 1 : อาการปวดและแสบร้อนลดลง ระดับความเจ็บปวดเหลือ 6/10

หลังการรักษาครั้งที่ 4 : อาการปวดและแสบร้อนลดลง ระดับความเจ็บปวดเหลือ 4/10 ความถี่ของอาการลดลงอย่างเห็นได้ชัด ปากไม่แห้ง ไม่กระหายน้ำ นอนหลับสนิทมากขึ้น และไม่มีตื่นกลางดึก

หลังการรักษาครั้งที่ 9 : อาการปวดและแสบร้อนลดลง ระดับความเจ็บปวดเหลือ 2/10 เท่านั้น และแทบไม่รู้สึกกระทบกับชีวิตประจำวันเลย

​

คำแนะนำ

- ไม่ควรรับประทานอาหารจนอิ่มเกินไป เลี่ยงอาหารรสจัด รสเผ็ด รสเปรี้ยว

- หลังรับประทานอาหาร ควรรอให้อาหารย่อยก่อน ไม่ควรนอนทันที

- พักผ่อนให้เพียงพอ หากิจกรรมทำเพื่อคลายเครียด

- งดบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์